ไปเที่ยวมาเลเซีย เมื่อวันที่ 23 - 25 มีนาคมที่ผ่านมา สนุกมากๆ เลย

:: วันที่ 23 ::

ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เช้ามืดเลย ถึงที่มาเลเซียก็ประมาณเที่ยง (เวลาที่โน่นจะเร็วกว่าบ้านเราประมาณ 1 ช.ม.) จะบอกว่าสนามบินที่กัวลาลัมเปอร์ไม่ใหญ่เท่าไหร่ แต่ว่าไฮเทคมากเลย แต่ละตึกจะไม่ติดกัน ต้องเดินทางไปหากันด้วยรถไฟฟ้า

จากนั้น ก็นั่งรถไปกินข้าวเที่ยงที่ร้าน Restoran East of Highway  อาหารก็จะออกมันๆ รสไม่จัดมาก เพราะที่โน่นเค้าไม่มีน้ำปลา แล้วเค้าก็ไม่ใช่ผงชูรสด้วย ส่วนตัวเองว่าไม่ค่อยอร่อยอ่ะ เลี่ยนๆ ไปหน่อย แต่ที่พูดเนี่ย กินไปเยอะอยู่นะ อิอิ ^___^ ตอนนั่งรถ ไกด์ (พี่เรย์) เค้าเล่าให้ฟังว่า ที่มาเลเซียจะไม่ค่อยมีสุนัข เพราะเค้าห้ามให้คนเลี้ยงพาสุนัขออกนอกบ้าน ถ้าเค้าเจอมันเดินเพ่นพ่านอยู่ เป็นพันธุ์ดุ ตัวใหญ่ ก็จะยิงทิ้งทันที แต่ถ้าตัวเล็กจะจับไปขังไว้ เหมือนคุก แล้วให้เจ้าของมาติดต่อกลับไปเอง อีกอย่างเค้าก็ไม่ชอบเลี้ยงกันอยู่แล้ว เพราะคนอิสลามจะรักสงบ ไม่ชอบให้มีเสียงเห่าของสุนัข แล้วก็จะรบกวนเพื่อนบ้านด้วย

ต่อมา พาไปนั่งกระเช้าขึ้นไปบนเขา ไปพักที่ โรงแรม เก็นติ้ง รีสอร์ท เขาจะเรียกกันว่า เก็นติ้ง ซิตี้ นครที่ไม่เคยหลับไหล จะบอกว่าไปอยู่แล้วจะไม่นึกเลยว่านี่เป็นบนเขา เพราะเต็มไปด้วยโรงแรม 5 แห่ง สวนสนุกในร่ม และสวนสนุกด้านนอก ที่รวมเครื่องเล่นสุดยอดไว้ด้วยกัน แล้วยังมีคาสิโน โรงหนัง 4 มิติ ที่ช็อปปิ้ง สวนหิมะ ผับ คาราโอเกะ โบว์ลิ่ง ชมโชว์ระดับโลกต่างงๆ มากมาย ฝนแอบเข้าคาสิโนด้วยหล่ะ ความจริงต้องอายุ 21 ขึ้นไป แต่ก็หลบๆ คนตรวจไปได้

ก็ตอนเย็นกินบุฟเฟ่ต์ของโงแรมเสร็จเค้าก็ปล่อยให้เดินเล่นถ่ายรูปอิสระ พอเหนื่อยก็พักนอน โรงแรมไม่ต้องมีแอร์เลย เพราะอากาศจะเย็นตลอดทั้งปี ก็อยู่บนเขาสูงตั้ง 6,000 ฟิตจากน้ำทะเลอ่ะ

:: วันที่ 24 ::

ในช่วงเช้าหลังกินข้าวเสร็จก็ปล่อยให้เก็บของ เดินถ่ายรูป ช็อปปิ้งตามอัธยาศัยอีกสักพัก เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมตอน 11 โมง แล้วเดินทางต่อไปที่ บูกิตติงกี้ รีสอร์ท เป็นที่ที่เค้าจะสร้างให้เหมือนบนเก็นติ้งนั่นแหล่ะ แต่ก็ทำไม่ได้ เค้าเลยทำเป็น สวนจำลองแบบญี่ปุ่น - - อันนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก ก็บ้านญี่ปุ่นเล็กๆ 2-3 หลัง แล้วก็สวนร่มรื่นดี กับ หมู่บ้านฝรั่งเศส - - ใหญ่มาก มีปราสาท บ้านต่างๆเหมือนที่เราเห็นในหนังฝรั่งเศสบ่อยๆ เลย มีโชว์แสดงเล็กๆ เต้นแบบระบำฝรั่งเศส แล้วก็แสดงตลกตามถนน ได้ลูกโป่งมาอันนึง อันนี้เขินมาก เพราะ ตัวตลกอ่ะ เค้านึกว่าฝนไปเป็นแฟนกับพี่เรย์อ่ะดิ ก็ทำลูกโป่งรูปหัวใจให้พี่เรย์มาให้ฝน แล้วพาไปให้อาหารกระต่ายที่ฟาร์ม เยอะมาก น่ารัก เข้าไปอุ้มเล่นได้ตามสบาย

จากนั้น ในทีสุดก็ลงมาตัวเมืองข้างล่างของจริงซะที (เริ่มร้อนแล้ว) ก็ไปถ่ายรูปบริเวณ หน้าพระราชวังหลวง เป็นที่อยู่ของสุลต่าน (เป็นตัวแทนที่ได้รับเลือกจากสุลต่านจากรัฐอื่นให้มาดำรงตำแหน่งเป็นประมุข ซึ่งจะเวียนกันไปเรื่อยๆ จนครบทุกคนนั่นแหล่ะ) แล้วชม อนุสาวรีย์ทหารอาสา ที่ระลึกในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งและสงครามโจรจียคอมมิวนิสต์ในมาเลเซีย

ต่อมาไปกินข้าวที่ Hong La Qiao Restaurant ช่วงบ่ายก็ไปตึก K.L. Tower เป็นหอคอยสำหรับชมทัศนียภาพรอบเมืองกัวลาลัมเปอร์ เค้ามีบริการวีดีทัศน์ส่วนตัวให้แต่ละคน โดยเลือกภาษาประเทศตัวเองได้ด้วยนะ ไฮเทคมากๆ เลย แล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ ตึกเปโตรนัส (ปัจจุบันเป็นสัญลักษณ์ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ - - ถึอเป็นตึกแฝดที่สูงที่สุดในโลกตอนนี้) อันนี้ถ่ายจากถนนด้านนอกไกลๆ เพราะเค้ากลัวเราเก็บภาพได้ไม่หมด แต่ก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเวลาไม่พอ แล้วมันก็มีแต่พวกช็อปปิ้งธรรมดา ให้เดินได้แค่ 2-3 ชั้น ชั้นบนๆ จะเป็นที่ทำงาน เหมือน ออลซีซั่นเพรส บ้านเราแบบนั้น

ตอนเย็นพาไปกินข้าว แล้วเข้าพักที่ Dorsett Hotel กลางคืนช็อปปิงที่ ย่านทามสแควร์ ก้จะเป็นย่านห้างแบรนด์เนมทั้งหลาย ที่นั่นจะไม่ค่อยเห็นร้านขายตามถนนเหมือนบ้านเราเลย ก็เลยไม่ค่อยอยากเดินเท่าไหร่ ก็ขึ้นไปพักผ่อน โรงแรมสร้างแปลกๆ หาห้องยากมาก เพราะมีซอกซอยเยอะแยะไปหมด แต่ก็สนุกดีเหมือนเล่นเกมเลย นอนดูละครมาเลเซียกลางคืน ดูมา 2 วันแล้ว สรุปได้ว่า ละครเค้าจะจบภายในวันเดียวเลย ไม่มีติดตามตอนต่อไปให้ค้างคาใจแบบบ้านเรา สนุกดีด้วย

:: วันที่ 25 ::

 กินข้าวเช้าที่โรงแรม (ฝนว่าบนเก็นติ้งอร่อยกว่าอ่ะ) เล้วพาไป บลูมอส หรือ สุเหร่าร้อยล้าน ที่เป็นมัสยิดกลางของมาเลเซีย ก็ดูได้แค่ข้างนอก เข้าไม่ได้ แล้วไป โรงงาน ฟิวเตอร์ แหล่งผลิตงานจากดีบุกผสมทองแดง ที่ดังที่ระดับโลก ไปดูเค้าผลิต และเลือกซื้อของที่ระลึก แบบว่า สวย แต่แพงมากเลยอ่ะ  จากนั้น ไปนมัสการ เจ้าแม่เทียนโชว ที่ วัดเทียนโชว ได้อมยิ้มฟรีจากพี่เรย์มาอันนึง  อิอิ อมยิ้มเค้าแปลกดี อันใหญ่มาก อร่อยนะ แต่กินลำบากชะมัด กินแล้วฟันกับลิ้นเปลี่ยนสีเลย 55

แล้วไปกินบักกุตเต๋กันที่ร้านดังมากๆ ของมาเลเซีย ขนาด เชลล์ชวนชิมยังมากินแล้วเลย ชื่อร้าน Cheng Cheng Bak Kut The ร้านนี้เค้าอร่อยจริงๆ นะ ส่วนตัว จะบอกว่า อร่อยที่สุดที่กินมา 3 วันเลยหล่ะ ซึ่งบักกุตเต๋ก็ถือเป็นอาหารประจำชาติมาเลเซียเค้า เป็นออกแนวยาจีน บำรุงร่างกาย แต่รสชาตอร่อยมาก ไม่เหมือนว่ากินยาเลย (แต่กลิ่นก็ยานิดๆ อ่ะนะ)

บ่าย เดินทางไปเมืองใหม่ ปุตราจาย่า หรือเมืองหลวงในอนาคตของมาเลเซีย สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการจราจร การขยายของเมืองต่างๆ ซึ่งก็จะมีตึกกระทรวงต่างๆ ครบ ตั้งอยู่ติดๆ กัน เรียกว่า ถ้าเรียกประชุมสภานี่ ใช้เวลาแปบเดียว ห้ามใครอู้ทั้งนั้น  มีบ่อน้ำเยอะมากๆ เพราะจะให้เอาไว้ให้น้ำไหลวนกันไปในแต่ละบ่อ เป็นการกรองน้ำด้ยธรรมชาติ แล้วจะไม่มีแหล่งอบายมุขเลยนะ ทั้งผับ ห้าง คาสิโน เค้าต้องการให้ข้าราชการตั้งใจทำงาน แหล่งพักผ่อนของเค้าก็จะมีที่ออกกำลังกายให้ บ้านพักข้าราชการก็จะอยู่นอนที่นั่นเลย และจะไม่ให้มีรั้วระหว่างแต่ละบ้าน เพราะเค้าเล็งเห็นว่าปัจจุบันคนมักระแวง ไม่เชื่อใจคนอื่น เค้าก็บังคับให้เราเชื่อใจกัน โดยไม่มีรั้ว แต่บางคนก็แอบสร้างเหล็กดัดไว้ตามประตูหน้าต่าง - - ก็มันกลัวนี่เนอะ

 ตอนเย็นก็เตรียมเดินทางกลับ (ว้า ต้องไม่เจอพี่เรย์ พระเอกเกาหลีของเราแล้ว -- ขอบอกว่าหน้าเหมือนพระเอก My sassy Girl มากๆ) ก็ออกจากสนามบิน 3 ทุ่ม เวลาที่นั่น ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า ก็จะถึงประเทศไทย 4 ทุ่มพอดี (อย่างงนะ) โดยสวัสดิภาพ

 -> นี่ไง แอบลงรูปพี่เรย์ให้ เผื่อหลายคนจะสงสัยว่าหน้าเหมือนจริงป่าว 555